วันพุธที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

renoir boutique hotel

Renoir Boutique Hotel

Patong Phuket







With 20 rooms, this property contains all the amenities and services you would expect from a 2.5-star hotel. Each room includes ironing board, television, internet access – LAN, television LCD/plasma screen. Room service, shops, restaurant are some of the extra comforts you'll find at this Phuket hotel. Guests may take advantage of sporting or leisure activities such as pool (kids), garden, massage at this hotel. Offering guests quality accommodation since 1, this hotel combines first-class service and the most modern facilities. To continue with your reservation at Renoir Boutique Hotel Phuket, please enter your arrival date and the number of nights you wish to stay.









Sports and Recreation

          garden          jacuzzi          massage          outdoor pool          pool (kids)  


Internet in Rooms

          internet access – LAN          internet access – wireless


Car park


 







วันอังคารที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ติ่มซำภูเก็ตอาหารเช้าของคนภูเก็ต

ติ่มซำภูเก็ตอาหารเช้าของคนภูเก็ต



ติ่มซำภูเก็ต หรือ ภาษาคนภูเก็ตเขาจะเรียกว่า “เส่วโบ๋ย” เป็นอาหารเช้าอีกชนิดหนึ่งที่คนภูเก็ตนิยมทานกันตอนเช้ากับกาแฟ (โก้ปี้) ร้านติ่มซำในภูเก็ตจะมีทั่วไปหลายร้านในภูเก็ตจะมีทั้งร้านเก่าแก่และร้านที่เพิ่งเปิดใหม่ๆก็มีเพราะติ่มซำเป็นอาหารเช้าที่คนภูเก็ตนิยมทานกันในตอนเช้า แต่วันนี้ผมจะมาแนะนำร้านติ่มซำร้านเก่าแก่ในภูเก็ตผมไม่แน่ใจว่าเป็นเจ้าแรกในภูเก็ตหรือเปล่าเพราะเท่าที่ผมจำความได้ผมรู้จักกับ คำว่า เส่วโบ๋ย ก็เพราะร้านนี้เพราะพ่อผมจะพาผมไปกินบ่อยสมัยเด็กๆ ร้านที่ผมจะแนะนำก็คือ ร้านติ่มซำบุญรัตน์ พอเอ๋ยชื่อร้านนี้ผมว่าหลายคนที่เคยอยู่ภูเก็ตหรือเป็นคนภูเก็ตคงจะรู้จักกันดี

ร้านบุญรัตน์
เป็นร้านดั้งเดิมเก่าแก่ในภูเก็ต สาขาแรกดั้งเดิมจะอยู่แถวหลังตลาดสด แถววงเวียนน้ำพุถ้ามาจากโรงแรมถาวรเก่าขับตรงมาก็จะเจอวงเวียนน้ำพุแล้วเลี้ยวซ้ายเจอซอยแรกขวามือเลี้ยวเข้าซอยเลยครับ จะเป็นร้านห้องแถว 1 ห้องร้านไม่ใหญ่มาก ติ่มซำของร้านนี้เขาจะทำเอง สดใหม่ๆทุกวัน โดยจะมี ขนมจีบหรือเส่วโบ๋ย ซาลาเปา ฮะเก๋าหรือเกาจี๋ เผือกทอด ลูกชิ้นปลา หรืออ๋วน ตีนไก่ กระดูกหมูตุ๋นยาจีนหรือบะกู้ดเต๋ กินกับน้ำจิ้มหวานหรือเตเจี่ยว
โดยวิธีการสั่งก็คือท่านไม่ต้องเดินไปสั่งอะไรแค่นั่งอยู่ที่โต๊ะแล้วทางร้านก็จะนำติ่มซำมากมายเท่าที่ร้านจะมีอยู่มาวางบนโต๊ะของท่านจนเต็มโต๊ะเลยทีเดียว ท่านไม่ต้องตกใจว่า ตายหล่ะกรูจะต้องทานให้หมดเลยหรือเปล่าเนี้ยะ คำตอบก็คือท่านเลือกทานอันที่ท่านชอบ ส่วนอันไหนไม่ทานตอนเวลาคิดเงินเขาก็จะไม่คิดเงิน แต่ส่วนใหญ่เท่าที่ผมไปกินกับเพื่อนฝูง ทานหมดทุกที ส่วนราคาแต่ล่ะถ้วยจะราคาแตกต่างกันก็จะอยู่ราคาประมาณ 12-17 บาท
ผมขอบอกไว้ก่อนน่ะครับว่าร้านนี้คนกินเยอะมากอาจจะต้องรอโต๊ะกันสักหน่อยถ้าไม่อยากรอผมแนะนำให้ไปอีก 2 ร้านเป็นสาขาของร้านบุญรัตน์เหมือนกันก็คือ แถวหน้าวิลล่าดาวรุ่ง กับ ร้านแถวโรงแรมรอยัลภูเก็ตซิตี้ (หน้า บขส.ภูเก็ต) แวะไปทานได้เลยครับรสชาดเหมือนกัน
บุญรัตน์ สาขา 126/41 ถ.บางกอก ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เบอร์โทรศัพท์ 076-212034
บุญรัตน์ สาขา 2
5/2 ถ.ดิลกอุทิศ 2 ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เบอร์โทรศัพท์ 076-210897
บุญรัตน์ สาขา 3
55/692-693 ถ.เจ้าฟ้า ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต เบอร์โทรศัพท์ 089-7273434, 089-7304111


บทความดีๆจาก  http://yutphuket.wordpress.com/2009/04/27/phuketfood-boonrat/

หมี่ผัดฮกเกี้ยนภูเก็ต(หมี่ต้นโพธิ์)

หมี่ผัดฮกเกี้ยนภูเก็ต(หมี่ต้นโพธิ์)





    

ถ้าจะพูดถึงของกินภูเก็ตนอกจาก โอ๊ะเอ๋ว ที่ผมเคยนำเสนอมาแล้วเมื่อครั้งก่อน แล้วยังมีอีกอย่างหนึ่งที่มาภูเก็ตแล้วไม่ทานไม่ได้ก็คือ หมี่ฮกเกี้ยน เป็นอาหารของคนภูเก็ตเชื้อสายจีนฮกเกี้ยน จะเป็นลักษณะหมี่เส้นเหลืองกลมเส้นจะใหญ่กว่าบะหมี่ทั่วไป เขาบอกว่าขนาดจะใกล้เคียงกับเส้นโซบะของญี่ปุ่น โดยเขาจะผัดแบบน้ำขลุกขลิกพร้อมใส่เนื้อหมู ปลา ปลาหมึก และอีกอย่างที่ขาดไม่ได้ก็คือ เนื้อหอย หรือคนภูเก็ตเรียกว่า หอยติ๊บ คลายๆหอยนางรมแต่ว่าเป็นหอยตัวเล็ก ผัดพอน้ำขลุกขลิกจากนั้นก็ใส่ไข่ถ้าให้อร่อยต้องใส่ไข่แบบไม่สุกจะอร่อยมากๆๆ เวลารับประทานจะรับประทานด้วยหอมแดง หรือ แคปหมู
สำหรับหมี่ฮกเกี้ยนภูเก็ต สามารถหาทานได้ทั่วภูเก็ตมีขายอยู่หลายร้านด้วยกันแต่ที่อยากจะแนะนำ ก็คือ ร้านหมี่ต้นโพธิ์ หรือชื่อเก่า ร้านหมี่แป๊ะกง ร้านนี้จะเป็นเก่าแก่เป็นที่ขึ้นชื่อของภูเก็ต จะว่าไปแล้วก็เป็นเอกลักษณ์ของภูเก็ตไปแล้วก็ได้เพราะใครมาภูเก็ตถ้ากินหมี่ฮกเกี้ยนภูเก็ตจะต้องมากินที่ร้านหมี่ต้นโพธิ์ ที่เขาเรียกว่าหมี่ต้นโพธิ์ก็เพราะร้านตั้งอยู่ใต้ต้นโพธิ์ จะมีต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ขึ้นปกคลุมร้าน
ที่ตั้งของร้านหมี่ต้นโพธิ์
จะอยู่แถวๆวงเวียนหอนาฬิกาตรงข้ามกับโรงแรมเมโทรโปรภูเก็ต ร้านจะอยู่ข้างๆกับศาลเจ้าฮกหงวนก้งภูเก็ต หาง่ายครับถามคนแถวๆนั้นก็ได้ครับ ว่าร้านหมี่ต้นโพธิ์ไปทางไหน ไม่มีใครไม่รู้จัก

โอ๊ะเอ๋ว ของหวานพื้นเมืองคนภูเก็ต

โอ๊ะเอ๋ว ของหวานคนภูเก็ต

อากาศร้อนๆแบบนี้ถ้ากินของเย็นๆก็คงจะชื่นใจ วันนี้ผมจะแนะนำทุกท่านให้รู้จัก โอ๊ะเอ๋ว หลายท่านคงจะได้ยินหลายคนเขาพูดถึงกันบ่อยๆว่าถ้ามาภูเก็ตแล้วต้องมากิน โอ๊ะเอ๋ว ให้ได้เพราะว่าโอ๊ะเอ๋วนั้นหากินได้ที่ภูเก็ตที่เดียวเท่านั้น


โอ๊ะเอ๋ว คืออะไร ทำมาจากไหน
โอ๊ะเอ๋วทำมาจากเมล็ดพันธุ์พืชชนิดหนึ่ง นำมาแช่น้ำแล้วใช้เมือกของมันมาผสมกับเมือกของกล้วยน้ำว้า ใส่เจี่ยกอเพื่อให้โอ๊ะเอ๋ว เกาะตัวเป็นก้อน เจี่ยกอตัวนี้แหละที่คนทำเต้าฮวยกับเต้าหู้ขาดไม่ได้ เมื่อเสร็จขบวนการขั้นตอนต่างๆแล้วจะมีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับวุ้นแต่อร่อยกว่า เพราะหวานหอมจากธรรมชาติจริง ๆ ไม่ได้มีสารเจือปนใด ๆ ทานแล้วยังบำรุงร่างกายอีกด้วย เพราะมีสรรพคุณแก้ร้อนใน รับประทานกับน้ำแข็งไสและถั่วแดง รสชาติหวานกลมกล่อมจริง ๆ

วิธีการสั่งโอ๊ะเอ๋ว ของคนภูเก็ต
เขาจะสั่งว่า “ขาว ดำ แดง” “ขาว แดง” “ขาว ดำ” อิอิ งงกันหล่ะสิครับ ไม่ใช่สีแถบถนนจราจรน่ะครับ ไอ้ที่ว่า “ขาว” ก็คือ วุ้นโอ๊ะเอ๋ว นั้นเองเพราะมันเป็นสีขาว ส่วนคำว่า “แดง” ก็คือ ถั่วแดง ส่วนคำว่า “ดำ” มันก็คือ วุ้นดำ หรือ เฉาก๊วย (คนภูเก็ตจะเรียก เฉาก๊วย ว่า วุ้นดำ ก็เพราะมันเป็นสีดำคล้ายวุ้น 55) ครับ เริ่มจะ มองภาพออกแล้วช่ายมั้ย การกินโอ๊ะเอ๋วนั้นเขาจะใส่ พวก ถั่วแดง เฉาก๊วย บางคนก็กินใส่กล้วยด้วย แล้วราดด้วยน้ำหวาน หรอยได้แรงอกนิ 555
ขาว ดำ แดง ก็คือ เอาโอ๊ะเอ๋ว ใส่ถั่วแดง และ วุ้นดำ (เฉาก๊วย)
ขาว แดง ก็คือ เอาโอ๊ะเอ๋ว ใส่แค่ถั่วแดง
ขาว ดำ ก็คือ เอาโอ๊ะเอ๋ว ใส่แค่ วุ้นดำ (เฉาก๊วย)

ราคาโอ๊ะเอ๋ว ถ้วยล่ะ 10 บาทครับ

โอ๊ะเอ๋ว หากินได้ที่ไหน
การที่หาทานโอ๊ะเอ๋ว ในภูเก็ตมีแหล่งกินหลักๆใหญ่ๆดังๆแล้วมี 2 แห่ง ก็คือ
1. โรงหนังสยามเก่า เป็นชื่อที่คนภูเก็ตเรียกติดปาก มันอยู่แถวถนนเยาวราช เอาง่ายๆถ้ามาจาก ถนนบางกอก ไปให้เจอวงเวียนน้ำพุ หรือ วงเวียนตลาดสด แล้วขับตรงมายังเส้นถนนเยาวราช ถนนเส้นนี้จะเป็น Oneway น่ะครับตรงมาจะเจอ สี่แยกไฟแดง ให้เลยมาถึงสี่แยกไฟแดงที่สอง แล้วหาที่จอดรถเลยครับถ้าสังเกตุดีๆบริเวณนั้นจะเป็นย่านเมืองเก่าตึกเก่าๆ บริเวณแถวนั้นจะมีร้านค้าขายอาหารพื้นเมืองภูเก็ตอยู่หลายร้าน ไม่ว่าจะเป็น หมี่ฮกเกี้ยนผัด, โอ๊เอ๋ว, ปอเปี้ยะสด ถ้าเดินเลยมาอีกนิด แล้วหาซอยสุ่นอุทิศ ให้เจอ ในซอยจะมีร้านโอ๊ะเอ๋ว อยู่สองร้าน จะมีร้านคนแก่ กับ ร้านคนหนุ่ม ขายอยู่ลองเลือกร้านทานเอาเองน่ะครับผมไม่เชียร์ร้านไหน อิอิ ถ้าทานโอ๊ะเอ๋วเสร็จแล้วถ้ายังไม่อิ่มบริเวณร้านติดกันก็จะมี ขนมอาโป๊ง ขนมของคนภูเก็ตเหมือนกันอร่อยเลยทีเดียว และยังมีอาหารพื้นเมืองคนภูเก็ตอีกอย่างหนึ่งก็คือ หมี่หุ้นกระดูกหมู น่าทานมากเลยครับ
2. บริเวณ ซอยหล่อโรง (ชื่อที่คนภูเก็ตเรียกกัน) หรือ มีชื่อเรียกอีกหนึ่ว่า ตลาดฉำฉา ผมเพิ่งเคยได้ยินเขาเรียกที่นั้นว่าตลาดฉำฉา จากรายการโทรทัศน์ที่เขาเคยไปถ่ายทำแนะนำของกินภูเก็ต เวลาจะมาก็ถามคนภูเก็ตก็ได้ว่าจะมาแถวหล่อโรงที่ขายของกินภูเก็ต รับรองครับคนภูเก็ตใจดีพามาถูกแน่นอน อิอิ ถ้าใครขับรถมาเอง ก็ให้มาเส้นทางที่จะไปเซนทรัลภูเก็ต มันจะอยู่เลย ศาลเจ้าจุ้ยตุ้ยประมาณ 200 เมตรเห็นจะได้ ตลาดตรงนี้จะมีของกินอาหารพื้นเมืองภูเก็ตเยอะเหมือนกันครับ

ชวนเที่ยวภูเก็ต

ภูเก็ต


ภูเก็ต ได้ชื่อว่าเป็นไข่มุกแห่งอันดามัน เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก ในด้านความสวยงามของทิวทัศน์ และหาดทราย น้ำทะเลสีฟ้าใส พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกทางการท่องเที่ยวครบครัน เป็นเกาะใหญ่ที่สุดของประเทศไทย มีฐานะเป็นจังหวัดหนึ่งในภาคใต้ ตั้งอยู่ทางชายฝั่งทะเลตะวันตกของประเทศไทยในน่านน้ำทะเลอันดามัน มหาสมุทรอินเดีย มีพื้นที่ประมาณ 543 ตารางกิโลเมตร ความยาวสุดของเกาะภูเก็ตวัดจากทิศเหนือถึงทิศใต้ประมาณ 48.7 กิโลเมตร และส่วนกว้างที่สุดวัดจากทิศตะวันออกถึงทิศตะวันตกประมาณ 21.3 กิโลเมตร

แหล่งท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดในจังหวัดภูเก็ต
- แหลมพรหมเทพ

    เป็นจุดชมวิวที่สวยงามของภูเก็ต อยู่ห่างจากหาดราไวย์ ประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นแหลมที่อยู่ตอนใต้สุดของเกาะภูเก็ต ชาวบ้านเรียกว่าแหลมเจ้า จากริมหน้าผามีแนวต้นตาลลาดลงสู่ปลายแหลมที่เป็นโขดหิน สามารถเดินไปจนถึงปลายแหลมได้ มองเห็นน้ำทะเลสีเขียวมรกต และสามารถเห็นเกาะแก้วอยู่ด้านหน้าแหลม ทางขวาจะเห็นแนวหาดทรายของหาดในหาน แหลมพรหมเทพนับเป็นสถานที่ชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามมากแห่งหนึ่ง นอกจากนั้นยังมี “ประภาคารกาญจนาภิเษก แหลมพรหมเทพ”  สร้างขึ้นในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี  มีขนาดความกว้างที่ฐาน 9 เมตร สูง 50 ฟุต และแสงไฟจากโคมไฟจะมองเห็นไกลถึง 39 กิโลเมตร   ภายในประภาคารมีการแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับการสร้างประภาคาร การรักษาเวลามาตรฐาน การคำนวณ และแสดงเวลาดวงอาทิตย์ขึ้นและตก จากบนยอดของประภาคารยังเป็นจุดชมวิว

- หาดกะตะ

     อยู่ห่างจากตัวเมืองภูเก็ต 17 กิโลเมตร ไปตามเส้นทางถนนเจ้าฟ้าถึงห้าแยกฉลองเลี้ยวขวาไปตามถนนหมายเลข 4028 หาดกะตะแบ่งออกเป็น 2 หาดคือ หาดกะตะใหญ่ กับหาดกะตะน้อย เป็นหาดที่เหมาะสำหรับการเล่นน้ำและใช้เป็นที่ฝึกดำน้ำ เนื่องจากมีแนวปะการังติดต่อกันไปจนถึงเกาะปูซึ่งอยู่ด้านหน้าหาดกะตะ บริเวณชายหาดมีบ้านพัก บริษัทนำเที่ยว ร้านค้า แหล่งบันเทิง ไว้สำหรับบริการนักท่องเที่ยวด้วย

- หาดในหาน

     เป็นหาดที่อยู่ถัดจากแหลมพรหมเทพขึ้นไปทางทิศเหนือ   อยู่ห่างจากตัวเมืองภูเก็ตประมาณ 18 กิโลเมตร มีทางไปได้หลายทาง จะไปจากหาดราไวย์ โดยผ่านหรือไม่ผ่านแหลมพรหมเทพก็ได้ หรือถ้ามาจากห้าแยกฉลองไปทางหาดราไวย์ ประมาณ 3 กิโลเมตร จะมีทางแยกขวาไปบ้านใสยวน หนองหาน ประมาณ 4 กิโลเมตร ชายหาดในหานไม่ยาวนัก หาดทรายขาวสะอาด ด้านหลังของชายหาดเป็นบึง ชาวบ้านเรียกว่าหนองหาน ระหว่างทะเลและบึงมีเพียงหาดทรายของหาดในหานขวางกั้นอยู่เท่านั้น ในช่วงฤดูมรสุมระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม คลื่นจะแรงมาก ไม่ควรลงเล่นน้ำเพราะอาจเกิดอันตรายได้

- หาดป่าตอง

     ห่างจากตัวเมืองภูเก็ตประมาณ 15 กิโลเมตร ตามเส้นทางถนนวิชิตสงคราม หรือ ทางหลวงหมายเลข 4020 ไป 9 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 4029 ไปอีก 6 กิโลเมตร เป็นอ่าวที่มีความโค้งมาก หาดทรายงดงามเป็นแนวยาว 9 กิโลเมตร น้ำทะเลใสสะอาด เหมาะแก่การเล่นน้ำ บริเวณหาดมีที่พัก บริษัทนำเที่ยว ศูนย์การค้า แหล่งบันเทิง บริการนักท่องเที่ยวอย่างครบครัน

- หาดกมลา

     อยู่ห่างจากตัวเมืองภูเก็ต 26 กิโลเมตร จากอนุสาวรีย์ท้าวเทพกษัตรีท้าวศรีสุนทร เลี้ยวซ้ายผ่านหาดสุรินทร์ แหลมสิงห์ ก็จะถึงหาดกมลาเป็นแนวหาดทรายยาวประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นหาดที่สงบเงียบ มีสถานที่พักบริการนักท่องเที่ยว

- อนุสาวรีย์วีรสตรี

     อนุสาวรีย์ท้าวเทพกษัตรีและท้าวศรีสุนทร ตั้งอยู่ที่สี่แยกท่าเรือ ห่างจากตัวเมืองภูเก็ต 12 กิโลเมตร เป็นอนุสาวรีย์ที่ชาวภูเก็ตร่วมกันสร้างขึ้น เมื่อปี 2509 เพื่อเชิดชูเกียรติวีรสตรีผู้กล้าหาญแห่งเมืองถลาง

- วัดฉลอง

     วัดฉลองภูเก็ต หรือ วัดไชยธาราม อยู่ห่างจากตัวเมืองภูเก็ตประมาณ 8 กิโลเมตร ออกจากตัวเมืองไปตามทางหลวงหมายเลข 4021 ผ่านสามแยกบริเวณสนามกีฬาสุรกุล เลี้ยวซ้ายไปทางห้าแยกฉลอง วัดฉลองจะอยู่ทางซ้ายมือก่อนถึงห้าแยกฉลอง ประมาณ 4 กิโลเมตร เป็นวัดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของภูเก็ต มีรูปหล่อของหลวงพ่อแช่ม และหลวงพ่อช่วง ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของชาวภูเก็ตทั่วไปด้วย

ท่านสามารถอ่านประวัติของหลวงพ่อแช่มวัดฉลอง อย่างละเอียดได้ที่ http://www.phuketport.com/th/trip/wat2/index.php


ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://thai.tourismthailand.org/where-to-go/cities-guide/destination/phuket/